Gagal mengambil konten dari URL. เวชศาสตร์ชะลอวัยและฮอร์โมน – Holistique

Sculptra at Holistique by Trainer แพทย์ผู้สอนฉีด

คืนพลังให้ผิวอ่อนเยาว์ ด้วย Sculptra- Collagen Biostmulator ตัวแรกของโลกที่ได้รับการรับรองจาก US FDA และ อ.ย.แห่งประเทศไทย

Sculptra คืออะไร?

Sculptra คือ อนุภาคของกรด Poly-L-Lactic (PLLA) จัดอยู่ในกลุ่ม Collagen Biostimulator เป็นสารฉีดกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนของตัวเราเองตามกระบวนการธรรมชาติ ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว โดยทำให้ผิวแน่นอิ่มฟู ยกกระชับบริเวณผิวหย่อนคล้อย ปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดียิ่งขึ้น Sculptra เป็น collagen stimulator ตัวแรกของโลกและเป็นตัวเดียวที่ผ่านการรับรองจาก US FDA ทำให้มั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูง และผลลัพธ์ที่ได้ก็ดูเป็นธรรมชาติแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงไม่มีผลหรืออาการข้างเคียงใดๆ ให้เป็นกังวล

คอลลาเจนคืออะไร

มีทั้งหมดกี่ชนิดแต่ละชนิดมีความแตกต่างหรือสำคัญอย่างไรบ้าง?

คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง โดยมีสัดส่วนสูงถึง 80% เป็นโครงสร้างสำคัญของเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหนังกระดูก กล้ามเนื้อ เล็บ เอ็น และข้อ เป็นต้น โดยในร่างกายคนเรามีคอลลาเจนหลากหลายชนิด ซึ่งชนิดที่สำคัญและเราสามารถพบได้บ่อยมีด้วยกัน 3 ชนิด

1. คอลลาเจน Type1 เป็นชนิดที่พบได้มากที่สุดในร่างกายพบมากอยู่ในผิวหนังและเส้นเอ็นมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง

2. คอลลาเจน Type2 ที่เป็นเส้นใยที่หลวมกว่า Type1พบมากอยู่ในกระดูกและข้อต่อ

3. คอลลาเจน Type3 wบมากอยู่ในผิวหนังและหลอดเลือด แต่ไม่แข็งแรงเท่ากับคอลลาเจน Type1

กระบวนการสร้างคอลลาเจนในร่างกายจะเริ่มลดลง ตั้งแต่อายุ 25 ปี เมื่อคอลลาเจนในผิวจะยิ่งเริ่มลดน้อยลง จึงทำให้สังเกตเห็นได้ชัดว่าผิวมีความไม่กระชับ หย่อนคล้อย และยิ่งโครงการกระดูกใบหน้าจะยุบลงตามอายุ กก็ยิ่งส่งผลให้ใบหน้าหย่อนคล้อยยิ่งขึ้น

Sculptra มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?

  • Sculptra ถูกผสมด้วย sterile water ถูกฉีดในผิวหนังชั้นลึก Subcutaneous
  • ผิวจะดูเติมเต็มทันทีหลังการฉีด Sculptra เนื่องจากปริมาตรน้ำที่ฉีดเข้าไป
  • หลังจากฉีด 2-3 วัน น้ำและส่วนประกอบต่างๆ จะถูกดูดซึม
  • เข้าสู่ร่างกาย โดยจะเหลือเพียงแค่อนุภาคของ Sculptra ทำให้อาจจะเห็นร่องลึก ริ้วรอยกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
  • อย่างไรก็ตาม Sculptra จะเริ่มกระตุ้นผ่านระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยดึงเซลล์Macrophages มาล้อมรอบอนุภาคของ Sculptra จำนวนมาก และมีการส่งสัญญาณให้เซลล์ Fibroblast เข้ามารวมตัวกันมากขึ้น
  • Fibroblast เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่สร้างเส้นใยคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้างผิวหนัง จึงทำให้ผิวมีความแข็งแรง และกระชับ
  • เมื่อเวลาผ่านไป, อนุภาคของ Sculptra จะค่อยๆหายไปเหลือเพียงเส้นใยคอลลาเจนที่มาสะสมแทน และฟื้นฟูความแข็งแรงโครงสร้างผิวหนังในระยะยาว
  • ช่วยยกกระชับใบหน้าและฟื้นฟูคุณภาพผิวยาวนาน 25 เดือน (เป็นการกระตุ้นและการสร้างคอลลาเจน Type 1 Sculptra สามารถฟื้นฟูสภาพผิวที่หย่อนคล้อยขาด Volume ช่วยทำให้ผิวกลับมาอ่อนเยาว์มากขึ้น)

Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับใครหรือผู้ที่มีปัญหาผิวแบบไหน?

Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีริ้วรอยที่เห็นได้ชัดซึ่งเกิดขึ้นตามวัย เพราะ Sculptra เป็นอนุภาคของกรด Poly-L-Lactic (PLLA-SCA) ที่เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายแล้วจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลิตคอลลาเจนธรรมชาติของตัวเองให้เพิ่มมากขึ้นรวมถึงฟื้นฟูโครงสร้างภายในชั้นลึกของผิวเพื่อให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้น ทำให้ผิวดูยกกระชับขึ้น ผิวดูแน่นอิ่มฟู และช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวพร้อมปรับปรุงคุณภาพของผิวให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าSculptra ตอบโจทย์ของคนกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเหมาะมากๆกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์จากการฉีดที่ยาวนาน

เพราะจากการวิจัยพบว่า Sculptra สามารถให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ยาวนานถึง 2 ปี ซึ่งก็เป็นที่พึงพอใจกับคนไข้ที่ฉีดไปเป็นอย่างมาก

วิธีการเตรียมตัวก่อนที่จะมารักษาด้วย Sculptra

การเตรียมตัวก่อนจะมาทำการรักษาคงจะคล้ายๆกับการรักษาแบบอื่นๆ ทั่วไป คือต้องไม่ฉีดหรือทำการรักษาหน้าด้วยหัตถการตัวอื่นๆ มาก่อนประมาณ 2 – 4 อาทิตย์ รวมถึงควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด กลุ่มยาแอสไพริน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีดเพื่อป้องการอาการพกช้ำ รวมถึงงดวิตามิที่ทำให้เลือดหยุดไหลยากเช่น วิตามินอี น้ำมันปลา เป็นต้น เป็นเวลา 2 สัปดาห์งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนการฉีด ดูแลสุขภาพร่างกายอยู่ในสภาพปกติแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรงและไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่

ผู้ที่ฉีด Sculptra ควรจะต้องทำการรักษากี่ครั้งที่จะเห็นผลลัพธ์สามารถทำต่อเนื่องกันได้หรือไม่ และต้องเว้นระยะห่างกันนานกี่สัปดาห์ ?

ผลลัพธ์หลังการฉีด Sculptra จะค่อยๆเนผลที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังจากการฉีดประมาณ 2 – 3 สัปดาห์เป็นต้นไป โดยตามผลการวิจัย Sculptra จะสามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิต Collagen type1 สูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ซึ่ง collagen type1 เป็นคอลลาเจนตัวที่ผิวของเราต้องการมากที่สุดด้วยโดยทั่วไปควรจะทำการฉีด 2 – 3 ครั้ง โดยเว้นระยะในทุกๆ 4 – 6 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่คงอยู่ยาวนานและให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

หลังการรักษาด้วย Sculptraมีผลข้างเคียงอะไรบ้างที่ต้องเป็นกังวลและมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน?

อาการทั่วไปหลังการฉีดในช่วง 1-2 วันแรกแล้วจะหายไปเองจะมีเพียงอาการบวม แดง ช้ำหรือมีอาการปวดเล็กน้อย ผลข้างเคียงอื่นๆ ส่วนมากก็จะไม่ได้รุนแรงอะไร แต่หากหลังจากฉีดไปแล้วอาจจะมีคลำเจอตุ่มนูนหรือก้อนเล็กๆใต้ผิวหนังก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะสามารถทำตามที่คุณหมอแนะนำคือให้เน้นนวดบริเวณที่ฉีด Sculptra มา เพื่อให้อนุภาคของสารที่ฉีดไปไม่เกาะกลุ่มกันเป็นก้อน นอกจากนี้ Sculptraยังสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติโดยไม่ตกค้างในร่างกาย และSculptra ยังถือเป็น collagen biostimlator ตัวแรกของโลกและตัวเดียวที่ผ่านการรับรองจาก US-FDA ยิ่งเป็นการตอกย้ำความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยต่อร่างกายของคนไข้ได้เป็นอย่างดี

การดูแลหลังการรักษา : 

  • สามารถล้างหน้า แต่งหน้าได้ หลังฉีด 2-3 ชั่วโมง 
  • ใน 24 ชั่วโมงแรกหลังการรักษา ให้ประคบเย็น เพื่อลดอาการปวด บวมช้ำ
  • ใน 24 ชั่วโมงแรก งดออกกำลังกายหนัก งดซาวน่า และงดออกแดดจัด
  • หลักการแบบ Triple5 เพื่อให้อนุภาคสาร PLLA กระจายตัวไปทั่วบริเวณใบหน้า และไปช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณที่เราต้องการ ซึ่งจะต้องทำการนวดครั้งละ 5 นาที 5 ครั้งต่อวัน เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 5 วัน ง่ายๆ แต่ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
  • รับประทานวิตามินซีอย่างน้อยวันละ 1,000 มิลลิกรัม ในช่วง 3 เดือนแรก

คืนพลังให้ผิวอ่อนเยาว์ ด้วย Sculptra- Collagen Biostmulator ตัวแรกของโลกที่ได้รับการรับรองจาก US FDA และ อ.ย.แห่งประเทศไทย

รับสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ Holistique Wellness

✔️ ให้การรักษาโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ Trainer ผู้ฝึกสอนการฉีด Sculptra ของประเทศไทย 👩🏻‍⚕️

✔️ 1 ใน 100 คลินิกแรกในประเทศไทย ✨

โปรแกรมตรวจหาสารพิษโลหะหนักในร่างกาย

สารพิษโลหะหนักอยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด เพราะสารพิษนี้อยู่ในอาหารและสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา ซึ่งเราอาจได้รับจากการรับประทาน การสัมผัส หรือการหายใจ ซึ่งส่งผลต่อการทํางานของร่างกาย ความเสื่อมสภาพของอวัยวะในร่างกาย ความเสื่อมของระบบประสาท โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง รวมถึงโรคเรื้อรังต่าง ๆ โดยโปรแกรมการตรวจสารพิษโลหะหนัก จะทําการ ตรวจเลือดและปัสสาวะเพื่อวิเคราะห์หาสารพิษโลหะหนักในร่างกาย ทั้งสารปรอท ตะกั่ว สารหนู แคดเมี่ยม อลูมิเนียม เพื่อจะได้บําบัดรักษา เพื่อชะลอความชราและความเสื่อมของร่างกาย

ราคา : 5,000 บาท / ตรวจปัสสาวะ

ราคา : 6,000 บาท / ตรวจเลือด

วิตามินเฉพาะบุคคล

การตรวจวิเคราะห์หาระดับวิตามิน เกลือแร่ รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระในเลือด เพื่อที่จะทราบ ว่าวิตามินหรือสารอาหารตัวใดที่ร่างกายขาด หรือได้รับไม่เพียงพอ เพื่อที่แพทย์จะเลือกส่วนผสม และขนาดของวิตามินที่เหมาะสมกับคนไข้ในแต่ละราย เป็นวิตามินเฉพาะบุคคล ที่ทํามาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพของคนไข้แต่ละรายและตรงกับความต้องการของร่างกายแต่ละบุคคลอย่างแท้จริง

ราคา : 15,000 บาท

Hormone

ระดับฮอร์โมนที่ดีหมายถึง การทํางานของร่างกายที่เป็นปกติ เมื่ออายุมากขึ้นระดับฮอร์โมนในร่างกายของเราจะเริ่มลดลงนําไปสู่อาการต่างๆหรือโรคต่างๆได้การตรวจวิเคราะห์ระดับฮอร์โมนจึงช่วยบอกความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายเพื่อวางแผนการรักษาและดูแลสุขภาพแบบองค์รวม

การตรวจฮอร์โมนสำหรับผู้หญิง

การตรวจฮอร์โมนที่สําคัญสําหรับผู้หญิงแบบองค์รวม เพื่อที่แพทย์จะทําการวิเคราะห์ระบบฮอร์โมนทั้งระบบว่ามีความผิดปกติหรือไม่ ทั้งฮอร์โมนเพศหญิง ฮอร์โมนเพศชาย ฮอร์โมนไทรอยด์ โกรธฮอร์โมน ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตที่สําคัญ เช่น ดีเอชอีเอ คอร์ติซอล เพื่อวางแผนการดูแลรักษาและป้องกันความชราจากฮอร์โมนที่บกพร่อง

ราคา : 10,500 บาท

การตรวจฮอร์โมนสำหรับผู้ชาย

การตรวจฮอร์โมนที่สําคัญสําหรับผู้ชายแบบองค์รวม เพื่อที่แพทย์จะทําการวิเคราะห์ระบบฮอร์โมนทั้งระบบว่ามีความผิด ปกติหรือไม่ ทั้ง ฮอร์โมนเพศชาย ฮอร์โมนเพศหญิง ฮอร์โมนไทรอยด์ โกรธฮอร์โมน ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตที่สําคัญ เช่น ดีเอชอีเอ คอร์ติซอล เพื่อวางแผนการดูแลรักษาและป้องกันความชราจากฮอร์โมนที่บกพร่อง

ราคา : 10,000 บาท

EarlyTect C (Colon Cancer Test)

การตรวจคัดกรองมะเร็งลําไส้ใหญ่ โดยไม่ต้องส่องกล้อง ตรวจหา DNA ของเซลล์มะเร็งใน อุจจาระ เป็นการตรวจที่ง่าย ไม่ต้องเตรียมลําไส้เพื่อส่องกล้อง ไม่ต้องวางยาสลบ ไม่ต้องอด อาหาร มีความแม่นยําและความจําเพาะ 90.2% สามารถตรวจหาความเสี่ยง “ติ่งเนื้องอก” หรือ “มะเร็งลําไส้ใหญ่” ระยะเริ่มต้นได้

ราคา : 12,000 บาท

การตรวจจุลินทรีย์ในลำไส้

9 ใน 10 ของเซลล์ในร่างกายนั้นคือ ” จุลินทรีย์ ” หากจุลินทรีย์ในลําไส้เสียสมดุลจะเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคเรื้อรังร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นโรคลําไส้แปรปรวน ลําไส้อักเสบ ท้องผูก รวมถึงภาวะต่าง ๆ ทางอารมณ์ ความอ้วน สิวอักเสบ หรือผื่นเรื้อรังต่างๆ รวมถึง การเลือกทานโพรไบโอติก (PROBIOTICS) ให้เหมาะสม เพราะจุลินทรีย์ในร่างกายของ แต่ละคนแตกต่างกัน ซึ่งการตรวจ HOLISTIQUE GUT MICROBIOME TESTING จะ ช่วยตรวจดูจุลินทรีย์ ในลําไส้ของเราที่มีทั้งจุลินทรีย์ตัวดีและตัวไม่ดี ว่าสมดุลหรือไม่ เพื่อ ให้ทราบข้อมูลความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่จุลินทรีย์ในลําไส้ไม่สมดุล

ราคา  : 19,000 บาท

Genetic Test

การตรวจ DNA ที่ครอบคลุมที่สุดเป็นการทดสอบทางการแพทย์ในการค้นหาและวิเคราะห์รหัสทางพันธุกรรมที่สําคัญทั้งหมดในร่างกายของเราด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าที่สุด(NEXT-GENERATION SEQUENCING) ความแตกต่างของรหัส DNA ในแต่ละบุคคลส่งผลต่อการทํางานของสมอง และ ระบบต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงความสามารถ ลักษณะเฉพาะและแนวโน้มที่จะเป็นโรคร้ายแรงในอนาคต การตรวจ DNA สามารถให้ประโยชน์ได้มากมายไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการรับประทานอาหาร การออกกําลังกายที่เหมาะสม การเลือกใช้ยาที่ถูกต้อง การป้องกันหรือรักษาโรค ช่วยให้คุณ เข้าใจสุขภาพของคุณในระดับ DNA เพื่อให้คุณมีสุขภาพในระดับที่เหมาะสมที่สุด

ราคา : 35,000 บาท

การตรวจระดับกรดไขมันในเลือด

การตรวจระดับกรดไขมันในเลือด เนื่องจากการอักเสบเป็นต้นเหตุของโรคเรื้อรังต่าง ๆ ซึ่งปัจจัย สําคัญที่ก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง คือ พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ทําให้ร่างกายไม่สามารถจัดการกับการอักเสบให้อยู่ในระดับที่สมดุลได้ พบว่าระดับไขมันในร่างกายนั้นมีผลต่อการ อักเสบและสุขภาพอย่างมาก โดยเฉพาะสมดุลกรดไขมันดี เช่น โอเมก้า 3 และกรด ไขมันไม่ดี เช่น โอเมก้า 6 โรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง เบาหวาน โรคอ้วน โรคไขข้อ เสื่อม โรคภูมิแพ้และหอบหืด ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับกรดไขมันโอเมก้า 6 ที่มีระดับสูง ดังนั้นระดับ กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่เพียงพอในร่างกายจะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้ การตรวจสมดุลระดับกรด ใช้ในการประเมินความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ร่วมกับการตรวจอื่นๆ

ราคา : 8,000 บาท

การตรวจสุขภาพสำหรับกลุ่มบุคคลทั่วไป

โปรแกรมตรวจสุขภาพพื้นฐานที่เหมาะสำหรับกลุ่มบุคคลทั่วไป ที่ต้องการดูแลสุขภาพเพื่อคัดกรองความเสี่ยงในการเกิดโรคทั่วไป และการตรวจเชิงป้องกันโรคตามหลักชะลอวัย 20 ชนิด แนะนำให้ตรวจเป็นประจำ ปีละอย่างน้อย 1-2 ครั้ง
รายการตรวจประกอบด้วย : ตรวจสุขภาพพื้นฐานที่เหมาะสำหรับกลุ่มบุคคลทั่วไป ที่ต้องการดูแลสุขภาพเพื่อคัดกรองความเสี่ยงในการเกิดโรคทั่วไป และการตรวจเชิงป้องกันโรคตามหลักชะลอวัย 20 ชนิด
ราคา 5,000 บาท
การเตรียมตัวก่อนตรวจสุขภาพ

  • งดอาหารอย่างน้อย 8-12 ชั่วโมง (ดื่มน้ำเปล่าได้ในปริมาณที่ไม่มากกว่าปกติ ในกรณีตรวจระดับน้ำตาลในเลือด หรือตามแพทย์นัด)
  • งดอาหาร และน้ำอย่างน้อย 6 ชั่วโมง ในกรณีที่มีการตรวจอัลตราซาวด์
  • ควรสวมเสื้อที่สะดวกในการเจาะเลือดที่ข้อพับแขน
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง

Urine Organic โปรแกรมตรวจการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายในระดับเซลล์ด้วยปัสสาวะ

เป็นการตรวจสมดุลของการย่อยสลายสารอาหาร หรือ ระบบ metabolic การให้พลังงาน การขจัดของเสียต่างๆ ความสมดุลของสารสื่อประสาท ความสมดุลของจุลินทรีย์ ความเสี่ยงของโรคมะเร็ง อัลไซเมอร์

รายการตรวจประกอบด้วย : ตรวจปัสสาวะเพื่อตรวจการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายในระดับเซลล์

ราคา 12,000 บาท

การเตรียมตัวก่อนตรวจ

  • หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำก่อนนอน อย่างน้อย 2 ชั่วโมงในคืนก่อนวันเก็บปัสสาวะ
  • หลีกเลี่ยงอาหารกลุ่มแอปเปิ้ล องุ่น ลูกแพร์ แครนเบอร์รี่ ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมงก่อนเก็บปัสสาวะ
  • ควรปัสสาวะก่อนเข้านอน
  • งดรับประทานวิตามินก่อนนอน
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักก่อนตรวจ
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมื้อหนักหรือบุฟเฟ่ต์ ก่อนตรวจเก็บปัสสาวะครั้งแรกหลังตื่นนอนตอนเช้า
  • หากระหว่างกลางคืนต้องตื่นมาปัสสาวะ ให้เก็บในช่วงที่นอนเกิน 4 ชั่วโมง
  • ไม่ควรเก็บตัวอย่างในช่วงที่มีประจำเดือน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า